วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2554

Google เปิดสำนักงานในไทย



        หลังจากที่ Google เปิดสำนักงานที่มาเลเซีย ได้ไม่นาน ก็มีข่าวว่า Google จะเปิดสำนักที่ไทยเช่นกัน ล่าสุดวันที่ 24 สิงหาคม 2554  Google ได้ฤกษ์เปิดสำนักงานในไทย ซึ่งได้เปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ณ พระราชวัง พญาไท




        Google ได้รับกระแสตอบรับจนมียอดใช้งานของคนไทยที่สูงมากราวๆ 25 ล้านคน  Google ตื่นเต้นกับการทำธุระกิจในประเทศไทย ซึ่งในงานนนี้ คุณอริยะ พนมยงค์ หัวหน้าฝ่ายธุรกิจประจำประเทศไทย ได้แถลงกล่าว




        มร.จูเลี่ยน เพอร์ซูด กรรมการผู้จักการ Google เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้กล่าวยินดีเป็นอย่างมากที่ Google จะเป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มศักยภาพของเมืองไทยให่แข็งแกร่งขึ้น  และยืนยันว่า สำนักงานแห่งแรกของ Google จะตั้งอยู่ที่ Central World



นอกจากนี้ทาง “พรทิพย์ กองชุน” หัวหน้าฝ่ายการตลาดที่ร่วมบุกเบิก Google ในไทยตั้งแต่ 5 ปีที่ผ่านมาก็ได้กล่าวถึงความสำเร็จของบริษัทด้วย
     “Google มีนโยบายทำให้คนทั่วโลกเข้าถึงประโยชน์ของอินเทอร์เน็ต อินเทอร์เน็ตจะช่วยให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถออนไลน์เพื่อสร้างรายได้มาก ขึ้น ทำให้เศรษฐกิจประเทศดีขึ้น ขณะเดียวกันก็ทำให้การเรียนรู้ของประชาชนทุกระดับเป็นไปได้ง่ายและมี ประสิทธิภาพขึ้น ทั้งหมดนี้เป็นโอกาสของเรา”


ขณะนี้ Google ยังประกาศรับสมัคร ผู้ร่วมงานคนไทย 3 ตำแหน่ง ผ่านทางเว็บไซต์ของ Google Thailand ได้แก่
  • Account Manager, Technology/Finance – Bangkok
  • Industry Manager, Technology/CPG – Bangkok
  • Industry Manager, Travel/Finance – Bangkok
ผู้ใดสนใจร่วมงานกับ Google สามารถสมัครได้ที่ Google Thailand ซึ่งคาดว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยไฝ่ฝันร่วมงานกับ Google
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : it.compgamer.com , thumbsup.in.th

แท็บเล็ต Quad-Core รัน Win 8 โผล่!!!

         ในระหว่างงาน Tech ED ทีจัดขึ้นในนิวซีแลนด์ บริษัท Microsoft ได้นำผลิตภัณฑ์ใหม่มากมายขึ้นมาโชว์ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ "แท็บเล็ต" ที่มาพร้อมกับโพรเซสเซอร์ "ควอดคอร์" และทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Windows 8


     ข้อมูลจากตัวแทนของ Microsoft กล่าวว่า แท็บเล็ตที่นำมาออกมาโชว์นี้ยังไม่มีการตั้งชื่อ แต่ในงานประชุมนักพัฒนา Build ที่บริษัทจะจัดขึ้นในในเดือนกันยายนน่าจะมีการให้ข้อมูลเพิ่มเติมตลอดจนการสาธิตการใช้งานบางส่วน สำหรับภาพของ"แท็บเล็ต"ข้างล่างนี้ ทาง Microsoft ระบุว่ามันคือ "Quad Core Windows Slate" ซึ่งในงานประชุมของ Microsoft ที่กำลังจะมาถึงในเดือนหน้านี้ นอกจากจะมีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Windows 8 หรือแม้แต่การส่งมอบเวอร์ชันพรีวิวแล้ว แท็บเล็ตตัวนี้น่าจะเป็นไฮไลต์ในการประชุมครั้งนี้ด้วย 




        อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวต่างๆ ไม่ยืนยันว่า Microsoft จะมีการแจกจ่ายให้นักพัฒนาไปทดสอบการใช้งานด้วย หรือไม่? แต่หลายคนก็คาดหวังว่า น่าจะมีการส่งมอบให้นักพัฒนาบางส่วนไปติดตั้ง และรัน Windows 8 ด้วย ซึ่งก็คงต้องติดตามกันต่อไป สำหรับหัวใจของ"แท็บเล็ต"ที่โผล่กลางงานประชุม Tech Ed ภายในจะใช้"ควอดคอร์"โพรเซสเซอร์ NVIDIA Kal-El  เนื่องจากเป็นโพรเซสเวอร์ตัวเดียวทีเริ่มมีการผลิตแล้ว ในขณะที่ชิป Quad-core ของ Qualcomm และ TI จะยังไม่มีการเปิดตัวจนกว่าจะถึงปี 2012 นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่า ASUS กำลังพัฒนา Eee Pad Transformer รุ่นใหม่ให้เป็นแท็บเล็ตตัวแรกที่ใช้ Kal-El ควอดคอร์ซีพียู และทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ  Windows 8





เว็บไซต์ในข่าว: Microsoft 

วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ยอดชม FB ทะลุ 1 ล้านล้านวิวต่อเดือน

     เพื่อไม่ให้ข่าวคราวความเคลื่อนไหวของ Google+ ที่ระยะนี้ออกมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ยอดผู้ใช้ทะลุ 25 ล้านภายในเดือนกว่าไปจนถึงการเชื่อมปุ่ม +1 เข้ากับ Google+ ล่าสุดทาง Facdebook ก็เลยออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่า ยอดชม Facebook ทะลุ 1 ล้านล้าน (1 Trillian) เพจวิวต่อเดือนไปเรียบร้อยแล้ว โดยตัวเลขดังกล่าวเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา (แต่เพิ่งเป็นข่าวตอนนี้?)


       ข้อมูลจากเว็บไซต์ Time ระบุว่า ยอด visitor ที่เกิดขึ้นทั้งหมด 870 ล้าน  หรือมากกว่า ยอดผู้ใช้ที่ลงทะเบียนกับทางเว็บไซต์ประมาณ 120 ล้าน (สมาชิกของ Facebook ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 750 ล้านราย) สำหรับตัวเลขที่เกินขึ้นมานี้ อาจจะมาจากผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกของ Facebook ที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์จากลิงค์บนโซเชียลมีเดียอื่นๆ หรือแทรฟฟิกที่มาจากเสิร์ชเอ็นจิ้น




       ส่วนเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมมากตามมาเป็นดับสองคือ YouTube ที่ถึงแม้จะมีเพจวิวแค่ 1 ใน 10 ของ Facebook แต่กลับมี UIP ที่ตรงกับ Facebook สูงถึง 90% เลยทีเดียว สำหรับข้อมูลสถิติล่าสุดนี้ จัดทำโดย Double Click Adplanner ของ Google (อีกแล้ว) ซึ่งพบว่า ในเดือนมิถุนายน Facebook มีเพจวิวที่ถูกรับชมมากกว่า 1 ล้านล้านวิว จาก visitor มากกว่า 870 ล้านราย โดยเฉลี่ยผู้ใช้หนึ่งคนจะดู 1,149.42 หน้า


เว็บไซต์ในข่าว: Facebook 

Google จัดหนักปุ่ม +1 ชน Like ของ FB

         ดูเหมือน Google กำลังจะพยายามทำให้ปุ่มบวกหนึ่ง หรือ +1 Button มีความเป็น"โซเชียล"มากขึ้น โดยการเพิ่มหมายเหตุของเพื่อนๆ เพื่อจะทำให้ผู้ใช้ทราบได้ว่า ในกลุ่มเพื่อนของคุณมีใครชอบ (Like) ข่าว หรือบทความชิ้นนี้บ้าง ซึ่ง avatar และชื่อของเพื่อนคุณที่ชอบสิ่งนั้น (คลิก +1 ให้กับข่าว หรือบทความนั้นๆ) จะแสดงขึ้นมาให้เห็น เมื่อเลื่อนเมาส์ไปบนปุ่ม +1


     การเปลี่ยแปลงการทำงานที่เพิ่มขึ้นมานี้เริ่มต้นเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว โดยไอเดียหลักของการเพิ่มความสามารถดังกล่าวก็เพื่อทำให้การแนะนำที่เกิดขึ้นทั้งหมดถูกแสดงให้เห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้น แทนที่จะแสดงแค่ตัวเลขจำนวนคนคลิกปุ่ม +1 อย่างเดียว สำหรับเจ้าของเว็บไซต์ที่ต้องการใช้ฟังก์ชันใหม่นี้จะต้องอัพเดทโค้ดของปุ่ม +1 เสียก่อน เลือกให้แสดง "annotation" หลังจากที่ติดตั้งโค้ดใหม่เข้าไปแล้ว เมื่อผู้ใช้เลื่อนเพอยน์เตอร์ของเมาส์ขึ้นไปบนปุ่ม +1 มันจะแสดงรายชื่อของเพื่อนๆ ที่ได้คลิกปุ่ม +1 นี้แล้ว




      แน่นอนว่า การเพิ่มเติมคุณสมบัติใหม่ให้กับปุ่ม +1 ด้วยการแสดงรายชื่อเพื่อนๆ ที่คลิกปุ่ม +1 แล้ว ถือเป็นอีกขั้นหนึ่งของการทำให้ปุ่ม +1 ของ Google มีความเป็นโซเชียลฯมากขึ้น และยังเป็นการชนกับปุ่ม Like ของ Facebook โดยตรง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า Google ยังมีแผนการต่างๆ อีกมากมายที่จะออกมาเรื่อยๆ เพื่อเจาะตลาดโซเชียลเน็ตเวิร์กที่ปัจจุบัน Facebook ครองส่วนแบ่งผู้ใช้มากที่สุด โดยมีผู้ใช้ทั่วโลกมากกว่า 750 ล้านรายเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ดี การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ของปุ่ม +1 นี้ น่าจะทำใหัผู้ใช้สนใจมากขึ้น อย่างน้อย ก็คงอยากจะรู้ว่า มีเพื่อนๆ สนใจข่าว หรือบทความ ตลอดจนสินค้าในร้านออนไลน์ที่คุณกำลังสนใจอยู่ด้วย หรือไม่? และหาก Google มีความเคลื่อนไหวในเรื่่องนี้อย่างไร ทางเว็บไซต์ arip จะติดตาม และนำมารายงานคุณผู้อ่านที่น่ารักทุกท่านทันที


เว็บไซต์ในข่าว: Google +1 Button

วันพุธที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ไฟร์ฟ็อกซ์ 4 ยอดดาวน์โหลดวันแรกแซงไออี 9 เกือบ 3 เท่า



         โหลดกระจาย "ไฟร์ฟ็อกซ์4" เบราเซอร์เวอร์ชั่นล่าสุดจากมอสซิลล่า โดยหลังเปิดให้ดาวน์โหลดอย่างเป็นทางการวันแรกยอดพุ่งเกือบ 7 ล้านครั้ง


     สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความร้อนแรงของตลาดเบราเซอร์ โดยภายในเดือนมี.ค.นี้มีการอัพเดทเวอร์ชั่นใหม่ของเบราเซอร์ค่ายต่างๆกันราวกับนัดหมาย โดยล่าสุดเป็นคิวของ"ไฟร์ฟ็อกซ์4" จากมอสซิลล่า ซึ่งหลังเปิดให้ดาวน์โหลดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา มีผู้ให้ความสนใจดาวน์โหลดไปใช้งานรวมกันเกือบ 7 ล้านเครื่อง ภายใน 24 ชั่วโมง
          
         ทั้งนี้สูงกว่ายอดดาวน์โหลดเบราเซอร์เวอร์ชั่นใหม่ของค่ายไมโครซอฟท์ หรือ"อินเทอร์เน็ต เอ็กซ์พลอเรอร์9 (ไออี9)" เกือบ 3 เท่า (ไออี9 มียอดดาวน์โหลดวันแรก 2.4 ล้านครั้ง)
         
         รายงานระบุว่า หลังจากมอสซิลล่าประกาศเปิดตัวไฟร์ฟ็อกซ์4 อย่างเป็นทางการเมื่อราว 10.00 น.(ตามเวลาสหรัฐ) ของวันอังคารที่ 22 มีนาคม ระบบคำนวณแบบเรียลไทม์ของมอสซิลล่าสามารถวัดจำนวนผู้ดาวน์โหลดเบราเซอร์ดังกล่าวจนถึงเวลา 10.00 น.ของวันรุ่งขึ้นได้แล้วราว 6.5 ล้านครั้ง

         แต่ทั้งนี้สถิติดังกล่าวยังต่ำกว่าเมื่อครั้งเปิดให้ดาวน์โหลดไฟร์ฟ็อกซ์  ในช่วงกลางปี 2551 ซึ่งมีผู้ดาวน์โหลดไปใช้งานมากกว่า 8 ล้านครั้ง และได้รับการจดบันทึกใน "กินเนส เวิลด์ รีคอร์ด" ในฐานะซอฟต์แวร์ที่ได้รับการดาวน์โหลดมากที่สุดใน      1 วัน

       อย่างไรก็ตามสำหรับข้อมูลผู้ดาวน์โหลดไฟร์ฟ็อกซ์4 จนถึงเวลา 11.30 น. (ตามเวลาสหรัฐ) ของวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมาพบว่า 44% เป็นผู้ใช้งานในแถบยุโรป ขณะที่ 26% มาจากยอดดาวน์โหลดในกลุ่มอเมริการเหนือ ส่วนเอเชียมีผู้ดาวน์โหลดไปใช้งานราว 20% และที่เหลือเป็นผู้ใช้งานในแถบอเมริกาใต้, แอฟริกา แะโอเชียเนีย


ที่มา : โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

เตือนผู้ใช้ Android ระวัง"มัลแวร์"จัดหนัก

     เช้านี้ขอประเดิมข่าวแรกด้วยเรื่องที่เกียวข้องกับผู้ใช้สมาร์ทโฟน Android โดยตรง รายงานข่าวล่าสุด McAfee บริษัทผู้เชี่ยวชาญระบบรักษาความปลอดภัยบนคอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ตออกมาเปิดเผยว่า 2011เป็นปีของมัลแวร์ เนื่องจากมีรายงานการโจมตี่บนอุปกรณ์โมบาย Android เพิ่มขึ้นตลอดระยะเวลาที่่ผ่านมา


      โดยในรายงานเกี่ยวกับภัยคุกคามในช่วงไตรมาสที่สองทีทาง McAfee ได้จัดทำออกมาระบุว่า ระยะเวลาแค่ครึ่งปีของปี 2011 ทางบริษัทพบตัวอย่างมัลแวร์มากถึง 12 ล้านรายการที่แตกต่างกัน ซึ่งสูงกว่าปี 2010 ถึง 22% และเป็นครึ่งปีทีมีการโจมตีของมัลแวร์มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ความจริง มัลแวร์ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่การเพิ่มจำนวนของมัลแวร์ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า พวกมันยังคงเป็นภัยคุกคามของผู้ใช้คอมพิวเตอร์ แม้แต่แพลตฟอร์ม MacOSXก็ยังพบว่า มีซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสปลอมเป็นครั้งแรก ซึ่งสามารถติดตั้งสคริปท์อันตรายเข้าไปในคอมพิวเตอร์ได้



     สำหรับส่วนที่สำคัญที่สุดของรายงานฉบันนี้ก็คือ แนวโน้มการเติบโตของมัลแวร์ที่พุ่งเป้าไปที่แพลตฟอร์ม"โมบาย"แทนที่จะเป็นเดสก์ทอปคอมพิวเตอร์อย่างที่ผ่านมา ซึ่ง McAfeeกล่าวว่า แพลตฟอร์มของ Android ตกเป็นเป้าโจมตีที่ใหญ่ที่สุดในช่วงไตรมาสที่สองที่ผ่านมา โดยมีการเติบโตสูงถึง 76% เทียบกับไตรมาสแรกของปี ทั้งนี้ น่าจะเป็นการย้ายจาก Symbian OS และ J2ME แน่นอนว่า การเติบโตของมัลแวร์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นผลมาสะท้อนมาจากการเติบโตของสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ ผู้ใช้จะต้องเผชิญกับวิธีโจมตีที่หลากหลาย โดยมาในรูปของแอพฯที่ถูกดัดแปลงการทำงาน หรือข้อความ SMS ตลอดจนการปลอมตัวมาในรูปแบบของการอัพเดทแอพฯ ในทางตรงข้ามคือ iOS ของ Apple ช่วงไตรมาสที่สองไม่มีรายงานการถูกโจมตีแต่อย่างใด 


     McAfee กล่าวว่า พบมัลแวร์ที่พยายามแสวงหากำไรในลักษณะของอาชญากรรมคอมพิวเตอร์โดยอาศัย "โทรจันส่ง SMS"เพื่อส่งข้อความพรีเมี่ยมแพคเกจ หรือลงทะเบียนผู้ใช้สำหรับบริการสมาชิกพรีเมี่ยมต่างๆ ซึ่งภาระค่าใช้จ่ายจะเกิดขึ้นกับผู้ใช้ที่โดนโจมตี ในขณะที่เงินส่วนหนึ่งจะเข้ากระเป๋าแฮคเกอร์ที่พัฒนามัลแวร์ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้สมาร์ทโฟน Android สามารถป้องกันตนเองได้ระดับหนึ่งด้วยการเลือกติดตั้งแอพฯ จากหน้าร้านที่เชื่อถือได้อย่างเช่น Android Market เป็นต้น แม้การเพิ่มจำนวนการเติบโตของมัลแวร์บน Android จะสูงจนน่าตกใจ แต่การโจมตีที่ส่งผลเสียรุนแรงกับผู้ใช้ยังไม่มีให้เห็นมากนัก อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ก็ควรจะระวังตัวไว้ เพราะยิ่งมันมีมากเท่าไร เปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย 

ข้อมูลจาก: McAfee 2nd Quater Threat Report (PDF) 

Windows Phone 7 Mango พร้อมแล้ว!!!

     บริษัทในอุตสาหกรรมไอทีจะสามารถเปิดตัวผลิตภัณฑ์ก่อนกำหนด โดยเฉพาะการประกาศดังกล่าวมาจาก Microsoft ซึ่งได้สร้างความประหลาดใจเมื่อทางบริษัทพัฒนา Windows Phone 7 Mango เสร็จเรียบร้อยก่อนกำหนด


     Peter Wissinger ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจโมบายของ Microsoft ได้ประกาศวันนี้ว่า "ตอนนี้ มัน (Windows Phone 7 Mango) ถูกส่งให้กับบริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่เป็นพันธมิตร เพื่ออัพเดตผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าของเรา Microsoft ได้ส่งมอบ Mango ก่อนกำหนดการที่ตังไว้ ตอนนี้รู้สึกดีมากๆ" อย่างไรก็ตาม คงต้องรอดูว่า เราจะได้เห็นสมาร์ทโฟนที่รัน WP7Mangoรุ่นแรกวางตลาดเมื่อใด ซึ่งปัจจุบัน บริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่ใช้ WP7ก็ได้แก่ Nokia,HTC,LG, Samsung, Dell, ZTE Corporation, Acer และ Fujitsu



     คาดว่า ตอนนี้ Nokia น่าจะอยู่ในระหว่างการอัพเกรด Mango ให้กับ  Sea Ray สมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Windows Phone 7  ตามด้วย Toshiba-Fujitsu IS12T ซึ่งมีกำหนดการเปิดตัวในเดือนกันยายน งานนี้จึงดูเหมือน Microsoft จะต้องการให้สมาร์ทโฟนที่ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ออกมาก่อน iPhone 5 อย่างไรก็ตาม หากคุณผู้อ่านเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟน Windows Phone 7 คุณสามารถอัพเดท Mango ได้เอง 

เว็บไซต์ในข่าว: Microsoft 

วันอังคารที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ซัมซุงเดินเครื่องโน้ตบุ๊ค"พลังแสงอาทิตย์"

     ตอนแรกดูเหมือนจะเป็นโน้ตบุ๊คที่ทำออกมาเพื่อเอาใจกระแส แต่ล่าสุดมีรายงานว่า หลังจากที่ Samsung ได้ทำตลาด NC215 โน้ตบุ๊คพลังงานแสงอาทิตย์ในรัสเซีย แอฟริกา และอเมริกาเหนือ เมื่อวานนี้ ถึงเวลาทำตลาดในเกาหลีแล้ว โดย NC215 เป็นโน้ตบุ๊คขนาดเล็กหน้าจอ 10.1 นิ้ว ฝาปิดด้านหน้าจะมีแผงโซลาร์เซลที่หากทิ้งไว้กลางแจ้ง 2 ชั่วโมงจะสามารถชาร์จแบตฯ เพื่อใช้งานได้นานประมาณ 1 ชั่วโมงเลยทีเดียว



     ในขณะที่หากแบตเตอรี่ของ Samsung NC215 ได้รับการชาร์จแบตฯจนเต็มจะสามารถใช้งานได้นานถึง 14 ชั่วโมง และรองรับการรีชาร์จได้ถึง 1,000 ครั้ง (ชาร์จทุกวัน อายุของแบตฯ ก็จะอยู่ได้ประมาณสองปีครึ่ง) ซึ่งเป็นผลมาจากเทคโนโลยี Power Plus ของ Samsung นั่นเอง สนนราคาของ Samsung NC215 ในเกาหลีอยู่ที่ 600,000 วอน หรือประมาณ 16,500 บาท


     สำหรับคุณสมบัติของ NC215 ที่วางตลาดในเกาหลีก็จะไม่ได้มีความแตกต่างจากรุ่นที่วางตลาดในประเทศต่างๆ โดยหน้าจอขนาด 10.1 นิ้ว ความละเอียด 1024 x 600 พิกเซล ดูอัลคอร์โพรเซสเซอร์ Intel Atom N570 ความเร็ว 1.66GHz หน่วยความจำ DDR3 1GB และสตอเรจ 250GB ความเร็วรอบฮาร์ดดิสก์ 5400 RPM กราฟิกเป็น Intel Graphics เว็บแคม ช่องใส่การ์ดหน่วยความจำ SD พอร์ต USB, Ehternet และไร้สาย Wi-Fi ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Windows 7 Starter Edition เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องใช้งานโน้ตบุ๊คนอกสถานที่ กำลังนึกอยู่ว่า ถ้ามาวางตลาดในไทย โดนแดดร้อนขนาดนี้ เครื่องจะไม่ร้อนเกินไป หรือแบตฯ จะไม่เสื่อมก่อนเวลาอันควร 


เว็บไซต์ในข่าว: Samsung 

วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2554

Messenger Plus! Live 5.03.0.716 โปรแกรมเพิ่มลูกเล่นให้กับ MSN ให้มีสีสันสะดุดตา



     อัพเดทเวอร์ชันล่าสุด Messenger Plus! Live 5.03.0.716 หรือ Messenger Plus! 5.03.0.716 เป็นโปรแกรมช่วยเสริมของ MSN ซึ่งเป็นปลั๊กอินอีกหนึ่งตัวครับที่ทำให้โปรแกรมแชท MSN มีลูกเล่นได้หลากหลายมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยน หน้ากากหรือสกิน (Skin), Emotions และ Winks ที่ติดมาให้เลือกอย่างมากมาย และยังสามารถสร้างขึ้นมาเองได้, การแชทเล่นเกมส์ออนไลน์กับเพื่อน ๆ ผ่าน MSN, การใช้งานแบบ 2 Account, บันทึกการสนทนาได้แบบละเอียดมากขึ้น, สามารถกำหนดรูปแบบและสีของตัวอักษรได้หลากหลายขึ้น และเมื่อพิมพ์ข้อความที่เหมือนกับข้อความที่ส่งไปก่อนหน้าจะมีหน้าต่างเล็ก ที่เรียกว่า Quick Text มาให้เลือกเพื่อความสะดวกไม่ต้องพิมพ์ข้อความเดิมใหม่ทุกครั้ง, สามารถปรับแต่งเสียงให้กับ Emotions ได้เอง, และฟังก์ชันเสริมอีกเยอะแยะมากมาย



     โปรแกรมที่เอาไว้สำหรับเสริมลูกเล่นแปลกใหม่ๆ ให้เจ้า MSN ตัว โปรดเพื่อให้มันสวยงามมากขึ้น แปลกตาขึ้น และช่วยให้การสนทนากับสาว ๆ หนุ่มๆ มีรสชาติกว่าเดิม เช่น การมีไอค่อนแบบใหม่ หน้ากากแปลกๆ เสียงเหตุการณ์เตือนมากขึ้น ระบบบันทึกการสนทนา สีตัวอักษร และอีกมากมายลูกเล่นที่ปรับแต่งและอัพเดทอยู่เสมอๆ ท่านใดที่ชอบคุย MSN และอยากแตกต่างกว่าคนอื่น ควรเอาตัวนี้ไปเสริมความสวย ความหล่อได้เลย


     Messenger Plus! เป็นส่วนเสริมของ Windows Live Messenger ที่มีคุณสมบัติและความพิเศษมากมาย เพิ่มความสามารถให้ Messenger และสร้างความสนุกสนานให้กับคุณมากขึ้น


ที่มา : http://hitech.sanook.com/tag/messenger+plus+live+5.03.0.716/ 

รวมเทคโนโลยี โลกตะลึง


        ใครจะเชื่อว่านกเหล็กลำใหญ่มหึมาที่หนักแสนหนักจะเหาะเหินโจนทะยาน บรรทุกผู้คนบินข้ามทวีปไปได้ไกลแสนไกล ใครจะคิดวันหนึ่งมนุษย์ตัวเล็กจะขึ้นไปเดินเหยียบพื้นผิวดวงจันทร์ที่อยู่ไกลโพ้นได้ จินตนาการ ในอดีตเกิดขึ้นจริงมาแล้วนับไม่ถ้วน คำว่าเป็นไปไม่ได้ดูจะไม่สอดคล้องกับความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีในโลกปัจจุบันสักเท่าไร เพราะอะไรต่อมิอะไรที่คิดว่า น่าจะอยู่ได้แค่ในยามหลับ กลับเป็นฝันที่เป็นจริงมาแล้วนักต่อนัก เว็บไซต์ www.LiveScience.comได้ประมวลวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 10 อย่างที่กำลังจะเข้ามาเปลี่ยนชีวิตมนุษย์ในอนาคตไว้ดังต่อไปนี้

1 ไฮโดรเจน

     การบริโภคน้ำมันจำนวนมหาศาลในปัจจุบันของคนทั่วโลกทำให้ "น้ำมัน" กลายเป็น เชื้อ เพลิงที่มีความต้องการสูง และเดินเข้าสู่ช่วงขาดแคลนเข้าขั้นวิกฤตในอีกไม่ช้าไม่นานนี้อย่างแน่นอน หลายฝ่ายจึงหาทางออกด้วยการหาพลังงานทดแทน และหนึ่งในนั้น คือ การใช้ประโยชน์จาก "น้ำ" โดยอาศัยกระบวนการเผาไหม้เพื่อนำก็าซไฮโดรเจนมาใช้ให้เกิดประโยชน์ อย่าง ไรก็ตาม การเก็บไฮโดรเจนยังมี อุปสรรคอยู่มาก เนื่องจากความหนาแน่นของไฮโดรเจนต่ำมากและสามารถนำไปใช้กับอุปกรณ์หรือส่วน ประกอบอื่นได้เพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้น ดังนั้นจึงอาจต้องอาศัยเวลาในการพัฒนาหากจะเข้ามาแทนที่ "น้ำมัน"ได้ แต่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน 

2 การบำบัดโรค

     การโคลนนิ่งในอนาคต จะทำเพื่อใช้ประโยชน์ในการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะหรือ เปลี่ยนเนื้อเยื่อ โดยเลี้ยงอวัยวะนั้นให้เติบโตบนภาชนะใดภาชนะหนึ่งด้วยการอาศัยเซลล์ต้น กำเนิดซึ่งทำให้ร่างกายผู้เป็นเจ้าของสามารถยอมรับเนื้อเยื่อได้ง่าย มิใช่เป็นการ "โคลนนิ่ง"เพื่อเพิ่มสิ่งมีชีวิตเหมือนแกะดอลลี่แต่อย่างใด ดังนั้นต่อไปหากมนุษย์ต้องเผชิญกับก้อนมะเร็งหรือมีอวัยวะที่ได้รับความเสีย หายก็จะถูกแทนที่ด้วยอวัยวะใหม่จากการโคลนนิ่งดังกล่าว

3 คอมพิวเตอร์

     ตามกฎของ "กอร์ดอน มัวร์" ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท "อินเทล" เคยบอกเป็นนัยว่า ประสิทธิภาพของแะขยายเพิ่มเป็นสองเท่าทุกๆ ปี ผู้เชี่ยวชาญในวงการคอมพิวเตอร์ก็ให้ความเห็นในทำนองเดียวกันว่าอย่างน้อย สุดในอีก 2 ทศวรรษต่อจากนี้ อุปสรรคที่จะมีผลต่อการผลิตชิปจะถูกกำจัดออกไปและกฎที่มัวร์ตั้งไว้จะบรรลุ ผล โดยอุตสาหกรรมผลิตชิปที่มีความล้ำหน้ามากขึ้นจะเป็นผู้ทำลายอุปสรรคนั้น

4 เดสก์ทอป 3-D พรินติ้ง

     แทนที่จะเดินไปตามร้านค้า เพื่อค้นหาบัดเจ็ตใหม่ๆ ต่อไปเราจะสามารถออกแบบสิ่งที่ต้องการ และสร้างผลงานผ่านเดสก์ทอป 3-D พรินติ้ง ไม่ว่าจะเป็นของเล่น อุปกรณ์เครื่องใช้ในครัว ของตกแต่งบ้าน เพื่อนำเสนอผลงานหรือจำหน่ายได้

5 การประมวลผลของอุปกรณ์โดยอาศัย โลเกชั่น


     แทนที่จะ ต้องคลิกตามไอคอน หรือใช้บราวเซอร์ค้นหาตามหน้าจอเหมือนในปัจุจบัน ต่อไปเมื่อเดินผ่านตามสถานที่ต่างๆ จะมีปรากฏภาพ 3 มิติที่อุปกรณ์สื่อสารโดยอัตโนมัติ ทำให้เราสามารถคลิกตรงภาพสถานที่นั้นๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือเพื่อรับข้อมูลข่าวสาร หรือลิงก์เข้าสู่เว็บไซต์เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่นั้นๆ ได้ทันที เช่นเดียวกับเซิร์ฟเวอร์ที่มี เป็นแหล่งรวบรวมของ อินเทอร์เน็ตแอดเดรส ต่อไปอาจมีการพัฒนาสามารถใช้ทำงานร่วมกันกับระบบทางภูมิศาสตร์ได้

6 โซล่าเซล


     แผ่นโซลาร์เซลล์ใน ปัจุจบันที่ทำหน้าที่เปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้า จากเดิมที่เคยมีราคาแพงแสนแพง มีแนวโน้มว่าจะลดราคาลงมาก มีมาตรฐานมากขึ้นและสามารถสร้างพลังงานเพิ่มขึ้นได้ถึง 3เท่า โดยแนวโน้มการก่อสร้างที่พักอาศัยใหม่ๆ จะหันมานิยมใช้ โซลาร์เซลล์เป็นวัสดุสำคัญในการผลิตพลังงานไฟฟ้าด้วย

7 หุ่นยนต์เคลื่อนที่


     ว่ากันว่า "เจ้าหุ่นยนต์" ที่มีความสามารถพิเศษหลายด้าน ซึ่งบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำกำลังคิดค้นและพัฒนาขีดความสามารถกันอย่างขะมัก เขม้นต่อไปจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตของมนุษย์มากขึ้น เช่น เข้ามาทำงานในบริเวณเสี่ยงภัยหรือชนบทห่างไกล มีการนำไปทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ จนเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางขึ้น รวมถึงเข้ามาแทนที่งานบ้านประจำวันที่น่าเบื่อของมนุษย์ด้วย

8 การแพร่กระจายของเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไร้สาย


     เทคโนโลยี การสื่อสารไร้สายทั้งไวแมกซ์,3G,4Gหรือใดๆ ก็ตาม เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้การแพร่หลายของเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไร้สายเพิ่มมาก ขึ้นทุกแห่ง ทุกที่ ทุกเวลา และเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวันที่จำเป็นสำหรับมุนษย์ในการติดต่อ สื่อสาร รวมถึงการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ข้ามไปมา เช่น การพัฒนาให้โทรศัพท์มือถือตรวจระบบป้องกันขโมยที่บ้านได้ เป็นต้น

9 สเต็มเซลล์ หรือยีนบำบัด


     เนื่อง จากโรคที่พบในปัจจุบันส่วนหนึ่งเกี่ยวข้องกับยีนที่ฝังอยู่ในระบบพันธุกรรม ของมนุษย์ ดังนั้นนักวิทยาศาสตร์จึงกำลังขะมักเขม้นคิดค้นกระบวนการเพื่อเปลี่ยนแปลง สภาพยีนดังกล่าว พร้อมกับพลิกแพลงเซลล์ผิดปกติให้สามารถเติบโตตามทางที่ถูกต้อง หรือแก้ไขโรคต่างๆ ภายในยีน ไม่แน่ว่าต่อไปในอนาคตโรคที่ติดตัวมาแต่กำเนิดอาจถูกรักษาให้หายขาดได้

10 ห้องสมุดดิจิทัล

     ต้อง ยอมรับว่าคำว่า "ดิจิทัล" และความเป็น "ดิจิทัล" ทุกวันนี้ส่งผลต่อชีวิตและการทำงานของมนุษย์อย่างรวดเร็วและมากขึ้นทุกขณะ มีปรากฏให้เห็นตามสถานที่ต่างๆ จนถือเป็นเรื่องปกติ ตั้งแต่การเรียนการสอนออนไลน์,การค้นคว้าหาข้อมูล, หนังสือหนังหาและอีกสารพัน มีเว็บไซต์จำนวนมหาศาลไว้ให้ค้นคว้าตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเสมือนห้องสมุดขนาด ใหญ่ที่ไม่เคยหลับใหล อาทิ   กูเกิล วิกิพีเดีย หรือแม้แต่การถามตอบปัญหาต่างๆ แบบสดๆ ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต


ที่มา : http://hitech.sanook.com 

10 อันดับบริษัทที่โดนกูเกิลซื้อด้วยมูลค่าสูงสุด


     เป็นที่รู้กันดีว่ากูเกิลเป็นหนึ่งในบริษัทนักช้อปฯ ตัวจริง ซึ่งในตลอดระยะเวลา 4-5 ปีหลังมานี้ มีบริษัทหลายบริษัทที่กูเกิลซื้อเข้ามาเสริมทัพให้บริการของตนเองจึงมานำเสนอ 10อันดับแรกของบริษัท ที่โดนกูเกิลซื้อด้วยมูลค่าสูงสุด ให้เห็นว่าพี่กูเขาใจปล้ำขนาดไหน

1. Motorola

     และแชมป์อันดับค่าตัวของบริษัทที่แพงที่สุด ที่กูเกิลซื้อเข้ามาในขณะนี้ก็คือ Motorola ยักษ์ใหญ่ทางด้านโทรคมนาคมที่เคยรุ่งเรื่องในยุคก่อนนี้ ซึ่งคาดว่าจะมาเสริมทัพกับกองทัพหุ่นกระป๋อง Android นั่นเอง ด้วยมูลค่าสูงถึง 12,500 ล้านเหรียญ 

2. DoubleClick

     เป็นบริษัทเกี่ยวกับการลงโฆษณาบนเว็บไซต์ที่ใหญ่มากๆ เว็บหนึ่ง การรวม DoubleClick เข้ากับ Adsense ที่มีอยู่แล้ว ทำให้ตอนนี้ส่วนแบ่งโฆษณาบนเว็บไซต์เกือบทั้งหมดเป็นของกูเกิลอย่างไม่ต้อง สงสัย ด้วยมูลค่า 3100 ล้านเหรียญ

3. Youtube

     ดีลระหว่างกูเกิลและ Youtube นั้นถือว่าสะท้านวงการได้เลยระดับหนึ่ง เพราะกูเกิลทุ่มสุดตัวด้วยมูลค่ามากถึง 1,650 ล้านเหรียญ ทำให้ตอนนี้กูเกิลกลายเป็นผู้ให้บริการวิดิโอออนไลน์ ที่ใหญ่ที่สุดในโลกไปแล้ว

4. Admob

      Admob เป็นบริษัทเกี่ยวกับการโฆษณาบนโทรศัพท์และสมาร์ทโฟน ที่มีส่วนแบ่งสูงที่สุดในโลก การเข้าซื้อครั้งนี้ของกูเกิลทำให้กูเกิลกลายเป็นเบอร์หนึ่ง ด้านการโฆษณาบนมือถือไปโดยปริยาย ด้วยมูลค่า 750 ล้านเหรียญ

5. ITA Software

     เป็นบริษัทรวบรวมตารางการบินของสายการบินต่างๆ ทั่วโลก ทำให้กูเกิลสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ประโยช์ในบริการต่างๆ ของตนได้หลากหลาย เช่นการรวมเข้าไปในผลการค้นหา ด้วยมูลค่า 700 ล้านเหรียญ

6. Postini

     Postini เป็นบริษัทที่ทำเกี่ยวกับระบบตัวกรองและรักษาความปลอดของอีเมล ซึ่งภายหลังได้นำมารวมกับ Google App ด้วยมูลค่า 625 ล้านเหรียญ

7. Admeld

เป็นบริษัทที่ทำเกี่ยวกับโฆษณาเช่นเคย ด้วยมูลค่า 400 ล้านเหรียญ

8. Slide

     เป็นบริษัทเขียนแอพและทำเกมบนโซเชี่ยลเน็ตเวิก ซึ่งคาดว่าจะเอามามีส่วนร่วมกับ Google+ แน่นอน ด้วยมูลค่า 182 ล้านเหรียญ

9. On2 Technologies

เป็นบริษัทที่คิดค้นเทคนิคการเข้ารหัสวิดิโอ VP8 ที่ถูกนำมาใช้กับ WebM ในปัจจุบัน ด้วยมูลค่า 133 ล้านเหรียญ

10. dMarc Broadcasting

เป็นบริษัทเกี่ยวกับธุรกิจการโฆษณาบนเว็บไซต์ ด้วยมูลค่า 102 ล้านเหรียญ


ที่มา : http://hitech.sanook.com/