วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2554

10 อันดับบริษัทที่โดนกูเกิลซื้อด้วยมูลค่าสูงสุด


     เป็นที่รู้กันดีว่ากูเกิลเป็นหนึ่งในบริษัทนักช้อปฯ ตัวจริง ซึ่งในตลอดระยะเวลา 4-5 ปีหลังมานี้ มีบริษัทหลายบริษัทที่กูเกิลซื้อเข้ามาเสริมทัพให้บริการของตนเองจึงมานำเสนอ 10อันดับแรกของบริษัท ที่โดนกูเกิลซื้อด้วยมูลค่าสูงสุด ให้เห็นว่าพี่กูเขาใจปล้ำขนาดไหน

1. Motorola

     และแชมป์อันดับค่าตัวของบริษัทที่แพงที่สุด ที่กูเกิลซื้อเข้ามาในขณะนี้ก็คือ Motorola ยักษ์ใหญ่ทางด้านโทรคมนาคมที่เคยรุ่งเรื่องในยุคก่อนนี้ ซึ่งคาดว่าจะมาเสริมทัพกับกองทัพหุ่นกระป๋อง Android นั่นเอง ด้วยมูลค่าสูงถึง 12,500 ล้านเหรียญ 

2. DoubleClick

     เป็นบริษัทเกี่ยวกับการลงโฆษณาบนเว็บไซต์ที่ใหญ่มากๆ เว็บหนึ่ง การรวม DoubleClick เข้ากับ Adsense ที่มีอยู่แล้ว ทำให้ตอนนี้ส่วนแบ่งโฆษณาบนเว็บไซต์เกือบทั้งหมดเป็นของกูเกิลอย่างไม่ต้อง สงสัย ด้วยมูลค่า 3100 ล้านเหรียญ

3. Youtube

     ดีลระหว่างกูเกิลและ Youtube นั้นถือว่าสะท้านวงการได้เลยระดับหนึ่ง เพราะกูเกิลทุ่มสุดตัวด้วยมูลค่ามากถึง 1,650 ล้านเหรียญ ทำให้ตอนนี้กูเกิลกลายเป็นผู้ให้บริการวิดิโอออนไลน์ ที่ใหญ่ที่สุดในโลกไปแล้ว

4. Admob

      Admob เป็นบริษัทเกี่ยวกับการโฆษณาบนโทรศัพท์และสมาร์ทโฟน ที่มีส่วนแบ่งสูงที่สุดในโลก การเข้าซื้อครั้งนี้ของกูเกิลทำให้กูเกิลกลายเป็นเบอร์หนึ่ง ด้านการโฆษณาบนมือถือไปโดยปริยาย ด้วยมูลค่า 750 ล้านเหรียญ

5. ITA Software

     เป็นบริษัทรวบรวมตารางการบินของสายการบินต่างๆ ทั่วโลก ทำให้กูเกิลสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ประโยช์ในบริการต่างๆ ของตนได้หลากหลาย เช่นการรวมเข้าไปในผลการค้นหา ด้วยมูลค่า 700 ล้านเหรียญ

6. Postini

     Postini เป็นบริษัทที่ทำเกี่ยวกับระบบตัวกรองและรักษาความปลอดของอีเมล ซึ่งภายหลังได้นำมารวมกับ Google App ด้วยมูลค่า 625 ล้านเหรียญ

7. Admeld

เป็นบริษัทที่ทำเกี่ยวกับโฆษณาเช่นเคย ด้วยมูลค่า 400 ล้านเหรียญ

8. Slide

     เป็นบริษัทเขียนแอพและทำเกมบนโซเชี่ยลเน็ตเวิก ซึ่งคาดว่าจะเอามามีส่วนร่วมกับ Google+ แน่นอน ด้วยมูลค่า 182 ล้านเหรียญ

9. On2 Technologies

เป็นบริษัทที่คิดค้นเทคนิคการเข้ารหัสวิดิโอ VP8 ที่ถูกนำมาใช้กับ WebM ในปัจจุบัน ด้วยมูลค่า 133 ล้านเหรียญ

10. dMarc Broadcasting

เป็นบริษัทเกี่ยวกับธุรกิจการโฆษณาบนเว็บไซต์ ด้วยมูลค่า 102 ล้านเหรียญ


ที่มา : http://hitech.sanook.com/

1 ความคิดเห็น: