ข่าวลือก่อนหน้านี้อ้างว่า Google เตรียมเปิดบริการใหม่ที่เรียกว่า ” Google Me ” โดยเป้าหมายคือ โซเชียลเน็ตเวิร์กที่ทางบริษัทพัฒนาออกมาต่อกรกับ Facebook ข่าวดังกล่าวได้ถูกนำมาหยิบยกพูดถึงกันอีกครั้ง เมื่ออีริค ชมิดท์ ซีอีโอของ Google ได้เปิดเผยข้อมูลบางส่วนเกี่ยวกับบริการใหม่ที่ว่านี้
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา Eric Schmidt ซีอีโอ Google ได้ให้รายละเอิยดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนการของบริษัท ซึ่งมีประเด็นหนึ่งที่ มีการนำมาขยายความกันต่อนั่นก็คือ แผนการเข้าสู่สมรภูมิโซเชียลเน็ตเวิร์ก โดยชมิดท์ได้ตอบคำถามที่ว่า โซเชียลเน็ตเวิร์กมีความสำคัญต่ออนาคตของ Google อย่างไร? และ Google จะต่อสู้กับคู่แข่งที่ยิ่งใหญ่และแข็งแรง (Facebook) ได้อย่างไร?
Schmidt กล่าวว่า “เรามองโซเชียลเน็ตเวิร์กแตกต่างจากทุกคนที่กำลังเขียนถึงมัน สิ่งที Google ต้องการคือ การทำให้ผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทมีประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้นโดยใช้ข้อมูล จากโซเชียลฯ สิ่งที่ดีที่สุดจะเกิดขึ้นถ้า Facebook เปิดเครือข่าย และให้เราเข้าไปใช้ข้อมูลนั้นได้ แต่ถึงแม้จะทำเช่นนั้นไม่ได้ เราก็มีวิธีอื่นๆ อีกมากมายที่จะทำให้ได้ข้อมูลเหล่านั้น เรากำลังพยายามเพิ่มองค์ประกอบของโซเชียลเน็ตเวิร์ก (เข้าไปในผลิตภัณฑ์หลัก) เพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์ของ Google ดีขึ้น ด้วยการยินยอมจากผู้ใช้ โดยเฉพาะการที่เราสามารถรู้ได้ว่า ใครคือเพื่อนของคุณ เราจะสามารถแนะนำสิ่งที่ผู้ใช้แต่ละคนต้องการได้มีประสิทธิภาพกว่าเดิม รวมถึงคุณภาพการค้าหาที่ดีกว่าด้วย”
นอกจากคำกลาวของชมิดท์แล้ว แหล่งข่าวที่เคยทำงานกับ Google ได้พูดถึงบริการใหม่ว่า “Google Me ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ แต่มันเป็นเลเยอร์ของการทำงานแบบโซเชียลบนผลิตภัณฑ์ทั้งหมด (ฟังดูไม่ค่อยจะเห็นประโยชน์กับผู้ใช้สักเท่าไร)” นอกจากนี้แหล่งข่าวยังกล่าวว่า ” Google Me จะผลักดันให้เกิดกิจกรรมออนไลน์ของผู้ใช้ที่มาจากการใช้ผลิตภัณฑ์ของ Google ทั้งหมด โดยมี Google Buzz ที่จะได้รับการปัดฝุ่นใหม่ให้ทำหน้าที่่เป็นตัวกลาง แต่ปัจจุบัน Google Buzz ยังไม่ได้ทำงานร่วมกับ Google Apps” แม้จะยังไม่ชัดเจนว่า Google จะเดินหมากนี้อย่างไร แต่ที่แน่ๆ คือ ทางบริษัทคงจะไม่ยอมให้ Facebook ครองข้อมูล และส่วนแบ่งตลาดผู้ใช้ไปอย่างนี้นานๆ อย่างแน่นอน Google Me จะเป็นกาวประสานใจของผู้ใช้ทั่วโลกด้วย Google Apps และผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกมากมายที่ดีกว่า การใช้แอพฯ และแลกเปลียนความคิดเห็นกันใน Facebook หรือไม่? คงต้องติดตามกันต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น